เมนู

ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสปีติว่าเป็นข้าศึกต่อตติยฌาน
ตรัสลมอัสสาสะปัสสาสะว่าเป็นข้าศึกต่อจตุตถฌาน ตรัสรูปสัญญาว่า
เป็นข้าศึกต่อผู้เข้าอากาสานัญจายตนสมาบัติ ตรัสอากาสานัญจายตน-
สัญญาว่า เป็นข้าศึกต่อผู้ทีเข้าวิญญาณัญจายตนสมาบัติ ตรัสวิญญา-
ณัญจายตนสัญญาว่า เป็นข้าศึกต่อผู้ที่เข้าอากิญจัญญายตนสมาบัติ ตรัส
อากิญจัญญายตนสัญญาว่า เป็นข้าศึกต่อผู้ที่เข้าเนวสัญญานาสัญญายตน-
สมาบัติ ตรัสสัญญาและเวทนาว่าเป็นข้าศึกต่อผู้ที่เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ-
สมาบัติ สัญญาและเวทนาจึงมีอยู่แก่ผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัตินั้น
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สมาปันโน สัททังสุณาตีติกถา จบ

อรรถกถาสมาปันโน สัททังสุณาตีติกถา



ว่าด้วย ผู้เข้าสมาบัติฟังเสียงได้



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องผู้เข้าสมาบัติฟังเสียงได้. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด
มีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายปุพพเสลิยะทั้งหลายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัส เสียงว่าเป็นหนาม คือเป็นข้าศึก ต่อปฐมฌาน ก็ถ้าว่า ผู้เข้าฌาน
ไม่ได้ยินเสียงไซร้ เสียงนั้นจะพึงเป็นหนาม คือเป็นข้าศึก ได้อย่างไร
เหตุใด เพราะเหตุนั้น ผู้เข้าฌานย่อมได้ยินเสียง ดังนี้ คำถามของสกวาที
หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที.

คำว่า ผู้เข้าสมาบัติเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อ
ท้วงด้วยคำว่า ตราบใดที่บุคคลยังเข้าฌานอยู่ อารมณ์ทางปัญจทวาร
ย่อมไม่มี ก็ครั้นเมื่ออารมณ์ทางปัญจทวารนั้นไม่มี ก็ถ้าเขาพึงได้ยินเสียง
ไซร้ เขาก็พึงเห็นแม้ซึ่งรูปได้ ดังนี้. คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
เสียงว่าเป็นข้าศึก
ท่านกล่าวแล้วเพราะความที่เสียงนั้นกระทำความ
รบกวน. จริงอยู่1 ครั้นเมื่อเสียงอันโอฬารกระทบโสตะแล้ว การออก
จากฌานย่อมมีได้ ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสคำนี้ เพราะ
ฉะนั้น พระสูตรนี้จึงมิใช่ข้อพิสูจน์ว่า ผู้เข้าสมาบัติฟังเสียงได้ ดังนี้.
คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสวิตกวิจารว่าเป็นข้าศึกต่อทุติยฌาน
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อให้รู้ว่าหนาม คือข้าศึก แม้อื่น ๆ ไม่มีอยู่ใน
ภายในแห่งสมาบัติ ฉันใด แม้การฟังซึ่งเสียงเป็นต้นก็ย่อมไม่มีอยู่ใน
สมาบัติฉันนั้น. คำทั้งปวงมีอรรถตื้นทั้งนั้นแล.
อรรถกถาสมาปันโนสัททังสุณาตีติกถา จบ

1. คำบาลี โอฬาริเกน หิ สทฺเทน โสเต ฆฏฺฏิเต ปฐมชฺฌานโต วุฏฺฐานํ โหติ เตเนตํ วุตฺตํ.

จักขุนา รูปัง ปัสสตีติกถา



[1767] สกวาที บุคคลเห็นรูปด้วยจักษุ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เห็นรูปด้วยรูป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เห็นรูปด้วยรูป หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. รับรู้ไปด้วยรูป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. รับรู้รูปด้วยรูป หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. รูปเป็นมโนวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเห็นรูปด้วยจักษุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจของจักษุมีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจของจักษุไม่มี มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจของจักษุไม่มี ก็
ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลเห็นรูปด้วยจักษุ.
[1768] ส. บุคคลฟังเสียงด้วยโสตะ ฯลฯ สูดกลิ่นด้วยฆานะ ฯลฯ